รวบรวมโดย
กฤตยา พรหมสุรินทร์ (นักศึกษาปริญญาโท สาขาคอมพิวเตอร์ศึกษา มรม.) 26 เมย. 2555
สุภาวดี จันเกื้อ (2554 : บทคัดย่อ)ได้ศึกษางานวิจัยเรื่องการพัฒนามัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ์ สำหรับนักเรียนระดับชั้น อนุบาลปีที่ 2 โดยใช้เทคโนโลยีมัลติพอยท์ โดยการวิจัยครั้งนี้
มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนามัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2
ให้มีคุณภาพ 2) หาประสิทธิภาพมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้น 3)
เปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนและหลังเรียนของผู้เรียนที่เรียนด้วยมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้น
4) ศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่เรียนด้วยมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นและกลุ่มตัวอย่าง
เป็นนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553
โรงเรียนชุมชนยอดแก่งสงเคราะห์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต
3 จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ
มัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ์ แบบประเมินคุณภาพมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ์
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและแบบสอบถามความพึงพอใจผู้เรียน สถิติที่ใช้คือ
ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ t-test (Dependent) ผลการวิจัยพบว่า
1) มัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้น มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก (=4.42, S.D.=0.48) 2) มัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 95.08/95.11
3) คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
.05 และ 4) ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ์อยู่ในระดับมาก
(=2.92 , S.D.=0.26)
สุลาวัลย์ มาชัย (2554 : บทคัดย่อ) ได้ศึกษางานวิจัยเรื่อง การพัฒนามัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ์
โดยใช้เทคโนโลยีมัลติพอยท์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยการวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์ เพื่อ 1)
พัฒนามัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ์โดยใช้เทคโนโลยี มัลติพอยท์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 2)
หาประสิทธิภาพของมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ์ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 3) เปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน
ที่เรียนด้วยมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้น
และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ มัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ์ ที่พัฒนาขึ้น
กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2
ปีการศึกษา 2553 โรงเรียนชุมชนยอดแก่งสงเคราะห์
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) มัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ์
โดยใช้เทคโนโลยีมัลติพอยท์
สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 2) แบบประเมินคุณภาพมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ์
โดยใช้เทคโนโลยีมัลติพอยท์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียน จำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน และสถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติ t-test (Dependent) ผลของการวิจัย พบว่า 1) มัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ์
โดยใช้เทคโนโลยีมัลติพอยท์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้น
มีคุณภาพในระดับเหมาะสมมาก ( = 4.27,
S.D. = 0.44) 2) ประสิทธิภาพของมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ์
โดยใช้เทคโนโลยีมัลติพอยท์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่
2
ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ 95.08/95.22
เท่ากับเกณฑ์ที่กำหนด (95/95) 3) คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
(= 28.57, S.D.= 0.9) สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน
(= 20.47, S.D. = 3.65) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 4) นักเรียนมีความ
พึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( =
2.92 , S.D. = 0.27)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น